รายละเอียดข่าวประชาสัมพันธ์

“สินิตย์” สั่งเดินหน้า“ทำลายของก๊อปปี้” มูลค่ากว่า 173 ล้านบาท สร้างความมั่นใจให้ประเทศคู่ค้าและนักลงทุน พร้อมปกป้องผู้บริโภคจากสินค้าด้อยคุณภาพ

     นายสินิตย์ เปิดเผยว่า “รัฐบาลให้ความสําคัญกับการปกป้องคุ้มครองสิทธิในทรัพย์สินทางปัญญา เป็นอย่างยิ่ง พร้อมเดินหน้าปราบปรามการละเมิดอย่างเข้มงวดทุกช่องทาง ส่งผลให้ในรายงานตลาดที่มีการละเมิด ทรัพย์สินทางปัญญาทั่วโลก ประจําปี 2564 (2021 Review of Notorious Markets for Counterfeiting and Piracy) ของสหรัฐฯ ไม่ปรากฏย่านการค้าและตลาดออนไลน์ของไทยแม้แต่แห่งเดียว ความสําเร็จดังกล่าวเป็นผล มาจากการบูรณาการการทํางานร่วมกันอย่างต่อเนื่องระหว่าง กระทรวงพาณิชย์ โดยกรมทรัพย์สินทางปัญญา และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ กองอํานวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร สํานักงานตํารวจแห่งชาติ กระทรวงกลาโหม กระทรวงมหาดไทย กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม กรมศุลกากร กรมสอบสวนคดีพิเศษ กรมประชาสัมพันธ์ สํานักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน และสํานักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ ตลอดจนภาคเอกชนเจ้าของสิทธิในทรัพย์สินทางปัญญา”

     นายสินิตย์ กล่าวเพิ่มเติมว่า “พิธีทําลายของกลางดังกล่าวถือเป็นกลไกสําคัญของการแก้ไขปัญหา การละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาที่จะต้องดําเนินการอย่างโปร่งใส สอดคล้องกับพันธกรณีภายใต้กรอบองค์การ การค้าโลก (WTO) และเป็นไปตามมาตรฐานด้านสิ่งแวดล้อม เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับประเทศผู้ค้า นักลงทุน และเจ้าของสิทธิในทรัพย์สินทางปัญญา ว่าสินค้าละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาจะไม่กลับเข้ามาสู่ท้องตลาดอีกต่อไป ซึ่งสินค้าละเมิดเหล่านี้นอกจากจะทําลายเศรษฐกิจของประเทศแล้ว ยังเป็นสินค้าที่ไม่มีคุณภาพหรืออาจเป็น อันตรายต่อสุขภาพ จึงอยากให้ผู้บริโภคตระหนักถึงพิษภัยและผลกระทบดังกล่าวด้วย”

     ด้าน นายวุฒิไกร ลีวีระพันธุ์ อธิบดีกรมทรัพย์สินทางปัญญา เปิดเผยว่า “ในปีนี้มีของกลางคดีละเมิด ทรัพย์สินทางปัญญาที่คดีถึงที่สุดแล้วที่ต้องนํามาทําลายทั้งสิ้น 404,985 ชิ้น ประกอบด้วยสินค้าหลากหลายประเภท อาทิ เสื้อผ้า กระเป๋า เข็มขัด รองเท้า นาฬิกา โทรศัพท์มือถือ แผ่นซีดี/วีซีดี แว่นตา เครื่องสําอาง อะไหล่รถยนต์ และสินค้าอาหาร เป็นต้น โดยเป็นของกลางจากการจับกุมและตรวจยึดของสํานักงานตํารวจแห่งชาติ 93,945 ชิ้น กรมศุลกากร 124,561 ชิ้น และกรมสอบสวนคดีพิเศษ 186,479 ชิ้น คิดเป็นมูลค่าความเสียหายประมาณ 173 ล้านบาท”

     ทั้งนี้ หน่วยงานภาครัฐและเอกชน เจ้าของสิทธิ ตลอดจนประชาชนทั่วไป ถือเป็นแนวร่วมสําคัญ ในการป้องกันและแก้ไขปัญหาการละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาของไทย เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้ประเทศคู่ค้า นักลงทุน สร้างมูลค่าเพิ่มและยกระดับสินค้าและบริการด้วยทรัพย์สินทางปัญญา พร้อมเพิ่มขีดความสามารถ ในการแข่งขันของประเทศให้ก้าวข้ามกับดักประเทศที่มีรายได้ปานกลาง ซึ่งหากพบเห็นการกระทําที่เข้าข่ายละเมิด ทรัพย์สินทางปัญญา สามารถแจ้งเบาะแสมายังกองป้องปรามการละเมิดทรัพย์สินทางปัญญา กรมทรัพย์สินทาง ปัญญา โทร. 02-547-4702 หรือสายด่วน 1368