หลักจรรยาบรรณของพีเอ็นอาร์

หลักจรรยาบรรณของพีเอ็นอาร์

บริษัท โฟโนไรทส์ (ไทยแลนด์)จำกัด “พีเอ็นอาร์” เป็นองค์กรบริหารจัดการสิทธิ์ในกลุ่มสมาพันธ์ผู้ผลิตสิ่งบันทึกเสียงระหว่างประเทศ การรักษามาตรฐานเป็นเรื่องสำคัญของเรา

  1. หลักปฏิบัติของพีเอ็นอาร์
    1. .1  พีเอ็นอาร์ต้องดำเนินกิจการเพื่อประโยชน์สูงสุดของสมาชิกและผู้ถือสิทธิ์ขององค์กรในเครือและองค์กรจัดเก็บที่มีสัญญาต่างตอบแทนที่พีเอ็นอาร์เป็นตัวแทนไม่ว่าเป็นสมาชิกโดยตรง
      หรือโดยการทำสัญญากับองค์กรบริหารจัดการสิทธิ์อื่นๆ พีเอ็นอาร์ต้องปฏิบัติกับผู้ใช้งานในลักษณะที่เป็นธรรมและไม่เลือกปฏิบัติ และตามวิธีการที่จะมั่นใจว่าสมาชิกและผู้ถือสิทธิ์ของ
      องค์กรในเครือและองค์กรจัดเก็บที่มีสัญญาต่างตอบแทนที่พีเอ็นอาร์เป็นตัวแทนจะได้รับค่าตอบแทนที่เหมาะสม
    2. .2  บริหารงานถูกต้องตามกฎหมายอย่างเคร่งครัดและดำเนินกิจการด้วยความสื่อตรง โปร่งใส มีประสิทธิภาพโดยไม่เลือกปฏิบัติ
    3. .3  พีเอ็นอาร์จะใช้ความพยายามสูงสุดในการจัดเก็บค่าตอบแทนหรือค่าอนุญาตให้ใช้สิทธิ์ในนามของสมาชิกและผู้ถือสิทธิ์ขององค์กรในเครือและองค์กรจัดเก็บที่มีสัญญาต่างตอบแทนที่พี
      เอ็นอาร์เป็นตัวแทนและการจัดสรรค่าตอบแทนที่ได้รับอย่างถูกต้องครบถ้วนให้แก่สมาชิกและผู้ถือสิทธิ์ขององค์กรในเครือและองค์กรจัดเก็บที่มีสัญญาต่างตอบแทนที่พีเอ็นอาร์เป็น
      ตัวแทนโดยไม่ชักช้า
    4. .4  พีเอ็นอาร์จะดำเนินการและสื่อสารนโยบายที่เป็นธรรมและมีประสิทธิภาพในการจัดการกับการเรียกเก็บค่าตอบแทนซ้ำซ้อน

หลักธรรมาภิบาลของพีเอ็นอาร์

  1. พีเอ็นอาร์จะให้โอกาสสมาชิกอย่างเท่าเทียมกันเข้าร่วมเป็นตัวแทนคณะกรรมการบริหารเพื่อสร้างความสมดุลโดยพิจารณาจากผลประโยชน์ในทางเศรษฐกิจตามหน้าที่การทำงานแต่ละสมาชิกในการสนับสนุนพีเอ็นอาร์
  2. ในกรณีที่ผู้ถือสิทธิ์สามารถเป็นสมาชิกกับพีเอ็นอาร์ได้โดยตรง สมาชิกทุกคนควรได้รับสิทธิในการออกเสียงในที่ประชุมใหญ่สามัญตามหลักเกณฑ์พื้นฐานเดียวกันซึ่งหลักเกณฑ์นั้นจะต้องได้รับการพิจารณาและบังคับใช้อย่างเป็นธรรมและเหมาะสมตามสัดส่วนมูลค่าสิทธิ์ ที่บริหารจัดการโดยพีเอ็นอาร์
  3. พีเอ็นอาร์จะต้องจัดให้มีการประชุมใหญ่สามัญของสมาชิก ตัวแทน หรือผู้ถือหุ้น แล้วแต่กรณีอย่างน้อยปีละหนึ่ง (1) ครั้ง การประชุมใหญ่สามัญจะต้องมีอำนาจในการที่จะแต่งตั้งและถอดถอนสมาชิกคณะกรรมการบริหารเพื่อกำกับดูแลการดำเนินการของพีเอ็นอาร์และผู้ตรวจบัญชีของพีเอ็นอาร์ รวมถึงการอนุมัติการเปลี่ยนแปลงสถานะและนโยบายการจัดสรรส่วนแบ่งรายได้ของพีเอ็นอาร์
  1. หลักปฏิบัติต่อสมาชิก
    1. 2.1  พีเอ็นอาร์ต้องยอมรับสมาชิกและ/หรือให้บริการกับสมาชิกและผู้ถือสิทธิ์ขององค์กรในเครือและองค์กรจัดเก็บที่มีสัญญาต่างตอบแทนที่พีเอ็นอาร์เป็นตัวแทนทุกรายบนพื้นฐานของ
      การไม่เลือกปฏิบัติและตามหลักการปฏิบัติอย่างเท่าเทียมกัน เว้นแต่พีเอ็นอาร์ มีเหตุผลที่เป็นธรรมสมควรที่จะปฏิเสธการให้บริการหรือเป็นเรื่องจำเป็นอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ในการ
      ปฏิบัติที่แตกต่างออกไป ซึ่งเป็นไปตามหลักเกณฑ์ตามวัตถุประสงค์ที่เป็นธรรมตามหลักจรรยาบรรณฉบับนี้
    2. 2.2  พีเอ็นอาร์จะให้ข้อมูลต่อไปนี้แก่สมาชิกและองค์กรในเครือและองค์กรจัดเก็บที่มีสัญญาต่างตอบแทนที่พีเอ็นอาร์เป็นตัวแทนไม่ว่าจะถือสัญชาติใดหรือจดทะเบียนประเทศใด (อย่างน้อย
      จัดทำข้อมูลเป็นภาษาไทย)
    • คุณสมบัติการเข้าเป็นสมาชิก
    • ผลประโยชน์ของสมาชิก
    • หน้าที่ของสมาชิก
    • สัญญาการเป็นสมาชิก และ/หรือ สัญญาลูกค้ากับสมาชิก*
    • กฎข้อบังคับของบริษัท/โดยกฎหมาย, นโยบายและหลักเกณฑ์การดำเนินงานของพีเอ็นอาร์
    • รายงานประจำปีและบัญชี
    • อัตราการจัดเก็บทั่วไป
    • นโยบายการจัดสรรค่าตอบแทน
    • ขั้นตอนการระงับข้อพิพาท
    • โครงสร้างของพีเอ็นอาร์
    • รายชื่อของสัญญาต่างตอบแทนที่พีเอ็นอาร์ทำธุรกรรม
    • ข้อมูลเกี่ยวกับการดำเนินการและเงินทุน (ถ้ามี)
    • ข้อมูลอื่นใดที่เกี่ยวข้องกับสิทธิและหน้าที่ตามสมควรหากมีการร้องขอ

พีเอ็นอาร์ต้องใช้ความพยายามที่จะทำสัญญาต่างตอบแทนกับทุกองค์กรจัดเก็บซึ่งเกี่ยวเนื่องกับสิทธิที่พีเอ็นอาร์บริหารจัดการ ภายใต้ขอบเขตองค์กรจัดเก็บนั้นตามกฎหมายระหว่างประเทศ
พีเอ็นอาร์จะบริหารจัดการสิทธิที่ได้รับมอบอำนาจตามสัญญาต่างตอบแทนด้วยความโปร่งใสและไม่เลือกปฏิบัติ

พีเอ็นอาร์จะจัดทำรายชื่อสิ่งบันทึกเสียงและอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องที่ซึ่งไม่สามารถระบุข้อมูลการอ้างสิทธิ์ให้แก่สมาชิกและผู้ถือสิทธิ์ขององค์กร ในเครือและองค์กรจัดเก็บที่มีสัญญาต่างตอบแทนที่
พีเอ็นอาร์เป็นตัวแทนที่ได้มอบสิทธิ์ไม่ว่าโดยตรงหรือผ่านสัญญาต่างตอบแทนกับองค์กรจัดเก็บอื่นๆ หากมีการร้องขอ

พีเอ็นอาร์จะจัดหารายงานส่วนแบ่งค่าตอบแทนให้แก่สมาชิกและองค์กรจัดเก็บที่พีเอ็นอาร์มีสัญญาต่างตอบแทน โดยระบุแยกตามประเภทของการใช้งาน, สิ่งบันทึกเสียงและอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องในแง่ของรายได้

  1. 2.1   ยอมรับเป็นสมาชิก เว้นแต่การปฏิเสธมีเหตุผลที่ถูกต้องเป็นธรรมโดยระบุเป็นลายลักษณ์อักษร ตัวอย่างเช่น เมื่อผู้สมัคร/สมาชิกได้ถูกพิสูจน์ว่ามีความเกี่ยวข้องกับการกระทำละเมิด
    หรือกิจการผิดกฎหมายอย่างอื่น หรือผู้สมัคร/สมาชิกบริหารสิทธิ์ที่ไม่อยู่ในขอบเขตของกิจการของพีเอ็นอาร์ พีเอ็นอาร์จะต้องไม่รับผู้ซึ่งเป็นสมาชิกหรือได้มีการโอนสิทธิให้แก่องค์กร
    จัดเก็บอื่นไปแล้ว ในการปรับเปลี่ยนข้อบังคับหรือหลักเกณฑ์ในข้อ 2.5 พีเอ็นอาร์ควรหารือกับสมาชิกและแจ้งสมาชิกหากมีการแก้ไขเปลี่ยนแปลง
  2. 2.2   พีเอ็นอาร์ให้สิทธิ์สมาชิกและองค์กรจัดเก็บที่มีสัญญาต่างตอบแทนที่พีเอ็นอาร์เป็นตัวแทนมีสิทธิพิจารณาขอบเขตการให้อำนาจบริหารจัดการ (ประเภทการอนุญาต, สิทธิ, การใช้งาน,
    งาน, กรอบระยะเวลา และ อาณาเขต) และลักษณะของสิทธิ (แบบอนุญาตให้แต่เพียงผู้เดียวหรือแบบไม่ผูกมัด) ที่ให้กับพีเอ็นอาร์ เว้นแต่ข้อจำกัดนั้นมีวัตถุประสงค์ที่ถูกต้องด้วยเหตุผล
    อันเกี่ยวกับการบริหารจัดการและการอนุญาตสิทธิ์ที่มีประสิทธิภาพตามวัตถุประสงค์เป้าหมายของพีเอ็นอาร์
  3. 2.3   เว้นแต่เป็นสิทธิ์คนล่ะประเภทกัน
  4. 2.4   มอบสำเนาข้อบังคับให้เมื่อเข้าเป็นสมาชิกและเมื่อมีการร้องขอ
  5. 2.5   เปิดเผยหลักปฏิบัติเรื่องค่าตอบแทนและค่าดำเนินการแก่สมาชิกและองค์กรจัดเก็บที่มีสัญญาต่างตอบแทนที่พีเอ็นอาร์เป็นตัวแทนรวมทั้งอัตราและวิธีการคำนวณค่าตอบแทน เงื่อนไข
    ช่องทางการทำธุรกรรม และตารางจัดสรรค่าตอบแทน รวมถึงข้อมูลเพิ่มเติม ในส่วนที่เกี่ยวกับค่าตอบแทนและค่าดำเนินการที่ซึ่งต้องมีรายละเอียดการจัดสรรค่าตอบแทนในรูปแบบ
    หนังสือคู่มือหรือผ่านระบบอินเทอร์เน็ตหากมีการร้องขอ
  6. 2.6   สมาชิกและองค์กรจัดเก็บที่มีสัญญาต่างตอบแทนที่พีเอ็นอาร์เป็นตัวแทนมีสิทธิ์ที่จะยกเลิกสัญญาสมาชิกหรือการบริหารจัดการ ซึ่งสิทธิ์ไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วนตามกฎข้อบังคับ
    ของพีเอ็นอาร์ โดยอาจให้มีผลทันทีหรือเมื่อสิ้นสุดระยะเวลาใดเวลาหนึ่งตามที่กำหนดแต่ไม่เกินหก (6) เดือน การยกเลิกสัญญาจะไม่ส่งผลกระทบต่อการอนุญาตสิทธิ์ที่ได้ให้ไปกับผู้ใช้
    งานก่อนหน้าวันที่ได้รับการบอกกล่าวยกเลิกสัญญาตามระยะเวลาที่เหมาะสม อย่างไรก็ตามระยะเวลาดังกล่าวนั้นไม่ควรเกินสิบสอง (12) เดือน การยกเลิกสัญญาจะไม่มีผลกระทบสิทธิ์
    หรือผลประโยชน์ใดๆ ที่สมาชิกหรือผู้ถือสิทธิ์ขององค์กรในเครือและองค์กรจัดเก็บที่มีสัญญาต่างตอบแทนที่พีเอ็นอาร์เป็นตัวแทนมีสิทธิ์ได้รับอยู่ก่อนการยกเลิกสัญญา รวมทั้งการ
    จัดสรรส่วนแบ่งให้แก่สมาชิกหรือ ผู้ถือสิทธิ์ขององค์กรในเครือและองค์กรจัดเก็บที่มีสัญญาต่างตอบแทนที่พีเอ็นอาร์เป็นตัวแทนในรายได้ที่พีเอ็นอาร์ได้เก็บมาในนามของสมาชิกและ
    สมาชิกและผู้ถือสิทธิ์ขององค์กรในเครือและองค์กรจัดเก็บที่มีสัญญาต่างตอบแทนที่พีเอ็นอาร์เป็นตัวแทนก่อนการยกเลิกสัญญาในเงื่อนไขเดียวกันกับสมาชิกหรือลูกค้าของพีเอ็น
    อาร์ตามแต่กรณี
  1. หลักปฏิบัติต่อผู้ใช้งาน
    1. 3.1   ภายใต้บังคับของกฎหมายคุ้มครองข้อมูล* การให้ข้อมูลที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งข้อกำหนด สัญญาและเงื่อนไข อาทิ หลักเกณฑ์และนโยบายการดำเนินกิจการของพีเอ็นอาร์ และจัดหาข้อมูล
      รายละเอียดอื่นๆ ที่เหมาะสมและเพียงพอหากมีการร้องขอจากผู้ขอใช้อนุญาตหรือองค์กรที่เกี่ยวข้องกับการเจรจาขออนุญาตี
    2. 3.2   เปิดเผยอัตราที่ได้จัดประเภทสิทธิ์และประเภทการใช้งานไว้
    3. 3.3   สมาชิกและผู้ถือสิทธิ์ขององค์กรในเครือและองค์กรจัดเก็บที่มีสัญญาต่างตอบแทนที่พีเอ็นอาร์เป็นตัวแทนมีสิทธิ์ได้รับค่าตอบแทนตามสัดส่วนการใช้สิทธิ์ อัตราการจัดเก็บนั้นจะ
      พิจารณาจากพีเอ็นอาร์ตามปัจจัยที่สำคัญเช่น มูลค่าทางเศรษฐกิจของสิทธิ์ ในทางการค้า ตามลักษณะและขอบเขตการใช้สิ่งบันทึกเสียงและอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง ประกอบกับมูลค่าทาง
      เศรษฐกิจของบริการ ที่พีเอ็นอาร์ให้บริการ
    4. 3.4   พีเอ็นอาร์ต้องปฏิบัติกับผู้ใช้งานในลักษณะที่เป็นธรรมและไม่เลือกปฏิบัติ เช่น อัตราการจัดเก็บเดียวกันสำหรับธุรกิจประเภท และขนาดเดียวกัน ไม่ปฏิเสธการอนุญาตสิทธิ์ในสิ่งบันทึก
      เสียงและอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องของสมาชิกและผู้ถือสิทธิ์ขององค์กรในเครือ และองค์กรจัดเก็บที่มีสัญญาต่างตอบแทนที่พีเอ็นอาร์เป็นตัวแทนที่ตนดูแลสิทธิ์ให้โดยไม่มีเหตุผลอันสมควร
    5. 3.5   พีเอ็นอาร์ควรขอให้ผู้รับอนุญาตรายงานการใช้สิ่งบันทึกเสียงและอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง ที่ถูกต้องโดยทันที โดยใช้รูปแบบมาตรฐานทางอิเล็กทรอนิกส์และที่ซึ่งระบุเป็นสากล เว้นแต่การ
      รายงาน นั้นจะไม่สมเหตุสมผลในทางการค้าและทางเศรษฐกิจแล้วไม่สามารถพิจารณาโดยเฉพาะอย่างยิ่งจากมูลค่าของการอนุญาตนั้นๆ
    6. 3.6   ให้ความรู้กับผู้ใช้งานเกี่ยวกับสัญญาและการใช้เพลงอันมีลิขสิทธิ์ตามกฎหมายและหน้าที่ของผู้ใช้งานที่จะต้องดำเนินการให้ได้รับอนุญาตให้ถูกต้องก่อนที่จะใช้งาน
    7. 3.7   พยายามส่งเสริมเกี่ยวกับบทบาทและความสำคัญการของการดำเนินธุรกิจกับอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้อง โดยการหารือกับหน่วยงานหรือองค์กรที่เกี่ยวข้องเพื่อรวบรวมข้อมูลไว้สำหรับ
      การพิจารณาข้อตกลง
    8. 3.8   พีเอ็นอาร์รับรองต่อผู้ใช้งานที่จะดำเนินการให้อนุญาตเฉพาะสิทธิ์สิ่งบันทึกเสียงและอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องของสมาชิกและผู้ถือสิทธิ์ ขององค์กรในเครือและองค์กรจัดเก็บที่มีสัญญาต่าง
      ตอบแทนที่พีเอ็นอาร์เป็นตัวแทนเท่านั้น
  1. หลักปฏิบัติต่อสาธารณชน
    1. 4.1   เปิดเผยข้อมูลต่อไปนี้เป็นอย่างน้อยต่อสาธารณชน ในช่องทางใดๆที่เข้าถึงได้ง่าย โดยเฉพาะอย่างยิ่งเว็บไซต์ของพีเอ็นอาร์
    • รายงานประจำปี
    • กฎข้อบังคับ
    • โครงสร้างพีเอ็นอาร์
    • อัตราค่าตอบแทนตามประเภทการใช้งานต่างๆ
    • รายชื่อสมาชิกแบ่งตามประเภทสมาชิก
    • รายชื่อองค์กรในเครือ, องค์กรจัดเก็บที่มีสัญญาต่างตอบแทน

    ในกรณีที่มีการเปลี่ยนแปลงใดๆ ข้อมูลดังกล่าวข้างต้นควรมีการปรับปรุงอยู่เสมอในระยะเวลาที่เหมาะสม

    1. 4.2   สนับสนุนกิจกรรมเพื่อสร้างความเข้าใจแก่สาธารณชนเกี่ยวกับลิขสิทธิ์เพลง เช่น โครงการให้ความรู้เกี่ยวกับสิทธิของผู้ถือสิทธิ์เพลง ส่งเสริมวัฒนธรรมศิลปะผ่านเนื้อหาที่เป็นเพลง
      จัดกิจกรรมเพื่อสนับสนุนผู้สร้างสรรค์และเจ้าของสิทธิและการบริจาคหรือการกุศลอื่นๆ อย่างไรก็ดีการจัดกิจกรรมควรคำนึงถึงปัจจัยที่เกี่ยวข้องทั้งหมด เช่น ขนาดขององค์กร
      จำนวนสมาชิก จำนวนผู้ได้รับอนุญาต และจำนวนรายได้ที่จัดเก็บได้แต่ละปี ความเป็นไปได้ที่จะร่วมมือกับองค์กรจัดเก็บอื่นๆ
  1. การจัดเก็บและการจัดสรรค่าตอบแทน
    1. 5.1   การจัดเก็บค่าตอบแทน
    2. 5.1.1   ค่าตอบแทนต้องถูกจัดเก็บเป็นประจำตามสัญญาที่ให้อนุญาต
    3. 5.1.2  ค่าตอบแทนที่จัดเก็บหลังจากหักค่าใช้จ่ายที่จำเป็นพีเอ็นอาร์แล้วจะต้องไม่นำมาใช้เพื่อวัตถุประสงค์อื่นใดนอกเหนือจากการจัดสรรคืนให้แก่สมาชิกและผู้ถือสิทธิ์ขององค์กรใน
      เครือและองค์กรจัดเก็บที่มีสัญญาต่างตอบแทนที่พีเอ็นอาร์เป็นตัวแทน เว้นแต่มีสัญญากับสมาชิกและผู้ถือสิทธิ์ขององค์กรในเครือและองค์กรจัดเก็บที่มีสัญญาต่างตอบแทน
      ที่พีเอ็นอาร์เป็นตัวแทนที่ระบุให้ทำได้ เช่น การตั้งกองทุนสำหรับสมาชิก หรือการจัดกิจกรรมต่างๆที่เกี่ยวข้อง
    4. 5.2   ค่าดำเนินการ
    5. 5.2.1   ค่าดำเนินการจะถูกหักจากรายได้ทั้งหมดเพื่อใช้ในการบริหารจัดการของพีเอ็นอาร์
    6. 5.2.2   ชี้แจงรายละเอียดค่าดำเนินการกับสมาชิกและผู้ถือสิทธิ์ขององค์กรในเครือและองค์กรจัดเก็บที่มีสัญญาต่างตอบแทนที่พีเอ็นอาร์เป็นตัวแทน เช่น ค่าสาธารณูปโภค, ค่าจ้าง/
      เงินเดือน, ค่าเทคโนโลยีสารสนเทศ และอื่นๆ รวมทั้งกำหนดวิธีการคำนวณ ตัวอย่างเช่น อัตราร้อยละจากค่าตอบแทนทั้งหมด, คำนวณตามยอดที่ได้รับจริง หรือคิดค่าดำเนินการตามที่
      ระบุไว้ในกฎข้อบังคับ เป็นต้น อย่างไรก็ดีค่าดำเนินการอาจแตกต่างกันขึ้นอยู่กับลักษณะการใช้งานแต่ต้องมีการแจ้งโดยชัดเจนและต้องอยู่บนพื้นฐานของการ ไม่เลือกปฏิบัติ
    7. 5.2.3   มีหลักฐานการใช้จ่ายอย่างโปร่งใส
    8. 5.2.4   มีกฎข้อบังคับในเรื่องการหักค่าดำเนินการอย่างชัดเจน
    9. 5.3   การจัดสรรค่าตอบแทน
    10. กฎการจัดสรรค่าตอบแทนและวิธีการการปฏิบัติที่พีเอ็นอาร์ใช้ต้องยึดตามหลักเกณฑ์การจัดสรรรายค่าตอบแทนแบบเฉพาะรายตามการใช้งานสิ่งบันทึกเสียงจริงและต้องไม่เลือกปฏิบัติ ในเรื่องสัญชาติ ความเป็นเจ้าของ แนวเพลง หรืออื่นใด ไม่ว่าทางตรงหรือทางอ้อมระหว่างสมาชิกและผู้ถือสิทธิ์ขององค์กรในเครือและองค์กรจัดเก็บที่มีสัญญาต่างตอบแทนที่พีเอ็นอาร์เป็นตัวแทนโดยไม่มีเหตุผลที่อ้างได้ตามสมควร

    11. 5.3.1   พีเอ็นอาร์ต้องจัดสรรส่วนแบ่งรายได้ที่จัดเก็บมาแก่สมาชิกและผู้ถือสิทธิ์ขององค์กรในเครือและองค์กรจัดเก็บที่มีสัญญาต่างตอบแทนที่พีเอ็นอาร์เป็นตัวแทนตามรายชื่อสิ่ง
      บันทึกเสียงตามรายการใช้งานจริงและรายงานการใช้งานตามที่เหมาะสมในแง่ ทางเศรษฐกิจและหลังจากหักค่าดำเนินการแล้ว
    12. 5.3.2   จัดสรรค่าตอบแทนแก่สมาชิกและผู้ถือสิทธิ์ขององค์กรในเครือและองค์กรจัดเก็บที่มีสัญญาต่างตอบแทนที่พีเอ็นอาร์เป็นตัวแทน ไม่ช้ากว่าหก (6) เดือนหลังจากสิ้นสุดปีบัญชี
      รายได้ที่จัดเก็บมานั้นควรมีการจัดสรรอย่างน้อยสอง (2) ครั้งต่อปี
    13. 5.3.3   จัดทำรายงานการใช้งานและการจัดสรรค่าตอบแทนให้แต่ละสมาชิกและองค์กรในเครือและองค์กรจัดเก็บที่มีสัญญาต่างตอบแทนที่พีเอ็นอาร์เป็นตัวแทนตามรอบระยะเวลาการ
      จัดสรรค่าตอบแทนที่กำหนด โดยแจกแจงประเภทของสิทธิและลักษณะการใช้งาน ค่าดำเนินการที่หักไปและข้อมูลอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องตามที่ระบุในข้อ 2.2
    14. 5.4   เงินที่ไม่สามารถระบุหรือมีการอ้างสิทธิ์
    15. 5.4.1   ภายใต้ข้อบังคับในข้อ 3.8 หลังจากที่ได้ใช้ความพยายามอย่างถึงที่สุดในการระบุและหาข้อมูลผู้รับเงินที่ถูกต้อง พีเอ็นอาร์ จะดำเนินการจัดสรรเงินคงค้างที่ไม่มีการอ้างสิทธิ์,
      ไม่สามารถระบุเจ้าของหรือไม่มีผู้รับแก่สมาชิกและผู้ถือสิทธิ์ขององค์กรในเครือและองค์กรจัดเก็บที่มีสัญญาต่างตอบแทนที่พีเอ็นอาร์เป็นตัวแทนโดยไม่เลือกปฏิบัติ ตามข้อมูล
      การใช้งานในปี นั้นๆ โดยกำหนดจะต้องไม่เกินกว่าสาม (3) ปี หลังจากวันสิ้นสุดปีปฏิทินที่เงินได้ถูกจัดเก็บมา
    16. 5.4.2   พีเอ็นอาร์ควรมีข้อบังคับที่สมเหตุสมผลสำหรับการอ้างสิทธิในอนาคตของแต่ละสมาชิกและผู้ถือสิทธิ์ขององค์กรในเครือและ องค์กรจัดเก็บที่มีสัญญาต่างตอบแทนที่
      พีเอ็นอาร์เป็นตัวแทนที่ยังไม่ได้รับค่าตอบแทนจากการใช้งานสิทธิ์
    17. 5.5   จัดทำรายงานและบัญชีการเงินเกี่ยวกับค่าตอบแทนที่จัดเก็บและการจัดสรร
    18. 5.5.1   จัดทำบัญชีทรัพย์สินขึ้นมาโดยเฉพาะแยกต่างหากจากบัญชีรายได้ บัญชีอันเกี่ยวข้องกับค่าตอบแทนที่จัดเก็บมาและที่จะจัดสรร รวมถึงรายได้จากกิจกรรมอื่นๆ รวมทั้งบัญชี
      เพิ่มเติมเพื่อแสดงแหล่งที่มาของรายได้ ประเภทของสิทธิ์และลักษณะการใช้งาน
    19. 5.5.2   จัดทำงบประมาณอย่างน้อยหนึ่ง (1) ครั้งต่อปี
    20. 5.5.3   ข้อมูลทางการเงินควรถูกบันทึกทั้งหมดและจัดเก็บไว้อย่างเหมาะสม โดยเฉพาะอย่างยิ่งข้อมูลเกี่ยวกับรายได้ที่จัดเก็บมา การจัดสรรค่าตอบแทน และค่าดำเนินการและค่าใช้
      จ่ายอื่นๆ
  1. รายงานประจำปี Annual Report
    1. 6.1   พีเอ็นอาร์ต้องเผยแพร่รายงานประจำปีบนเว็บไซต์ของตน โดยรายงานประจำปีนั้นควรประกอบด้วยข้อมูลดังต่อไปนี้
    • ประเภทสมาชิกและผู้ถือสิทธิ์ขององค์กรในเครือและองค์กรจัดเก็บที่มีสัญญาต่างตอบแทนที่พีเอ็นอาร์เป็นตัวแทน
    • ค่าตอบแทนทั้งหมดในปีปฏิทินที่รายงาน จัดแบ่งตามประเภทสมาชิก ประเภทสิทธิ์และประเภทการใช้งาน และรายได้อื่นๆ
    • ค่าดำเนินการและค่าใช้จ่ายอื่นๆ
    • งบประมาณ
    • รายงานกิจกรรมในปีนั้นๆ
    • ข้อมูลอื่นๆ เกี่ยวกับการจัดสรรค่าตอบแทนให้แก่สมาชิกและผู้ถือสิทธิผู้ขององค์กรในเครือและองค์กรจัดเก็บที่มีสัญญาต่างตอบแทนที่พีเอ็นอาร์เป็นตัวแทนและค่าดำเนินการ รายได้จากสัญญาการอนุญาตให้ใช้สิทธิที่ทั้งในประเทศไทยและประเทศอื่นๆ และการบริหารกองทุนเพื่อลงทุน (ถ้ามี) เป็นต้น
    1. 6.2   จัดส่งรายงานประจำปีให้แก่สมาชิกปีละครั้ง ไม่ช้ากว่าแปด (8) เดือนหลังจากสิ้นสุดปีบัญชี และเผยแพร่บนเว็บไซต์ของพีเอ็นอาร์เป็นระยะเวลาไม่น้อยกว่าห้า (5) ปี
  1. ขั้นตอนระงับข้อพิพาท
    1. 7.1   พีเอ็นอาร์ควรจัดทำและเผยแพร่นโยบายที่เป็นธรรมและมีประสิทธิภาพในการจัดการกับการอ้างสิทธิ์ในค่าตอบแทนที่ทับซ้อนกัน และควรเผยแพร่ขั้นตอนระงับข้อพิพาทดังกล่าวนั้น
    2. 7.2   ไม่ปฏิเสธสมาชิกและตัวแทนผู้ถือสิทธิ์ผู้ซึ่งมีความประสงค์จะเลือกการระงับข้อพิพาททางอื่นเว้นแต่มีเหตุผลอันสมควร
    3. 7.3   จัดหารายงานอันเกี่ยวข้องกับข้อเรียกร้องและการระงับข้อพิพาทตามความเหมาะสม
  1. การคุ้มครองข้อมูล*
    1. 8.1   ปฏิบัติตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลและข้อมูลความลับทางการค้า
    2. 8.2   ร้องขอการอนุญาตจากสมาชิกและองค์กรในเครือและองค์กรจัดเก็บที่มีสัญญาต่างตอบแทนที่พีเอ็นอาร์เป็นตัวแทนในการอนุญาตพีเอ็นอาร์จัดเก็บรวบรวม ประมวลผล หรือใช้ข้อมูล
      ส่วนบุคคลของสมาชิกและและผู้ถือสิทธิ์ผู้ขององค์กรในเครือและองค์กรจัดเก็บ ที่มีสัญญาต่างตอบแทนที่พีเอ็นอาร์เป็นตัวแทนและผู้ใช้งาน
    3. 8.3   เอ็นอาร์ต้องจัดเก็บและปรับปรุงข้อมูลของสมาชิกและผู้ถือสิทธิ์ขององค์กรจัดเก็บในเครือและองค์กรที่มีสัญญาต่างตอบแทน ต่อกันที่พีเอ็นอาร์เป็นตัวแทนและผู้ใช้งานให้ถูกต้อง
      อย่างสม่ำเสมอพร้อมทั้งจัดทำในรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์